ครูบาอาจารย์

Kru Preang Master of Muay Chaiyaครูแปรง (ณปภพ ประมวญ)

Krupreang 1987

Kru Preang Master Of Muay Chaiya

• Present Master Practitioner of Muay Thai Chaiya
• Current Chairman of the Thai Martial Arts and Muay Chaiya Conservation Club , Muaythai Chaiya Foundation

Kru Preang was born on September 1, 1958 in the nearby province of Chanthaburi, Thailand. Since at an early age, he has developed a keen interest in fighting arts / sports, especially in sports gun shooting. Widely acknowledged for his marksmanship, he was invited to join the Thailand SEA Games National Team, but had to deny the opportunity due to financial reasons.

Kru preang 2007
Kru preang 2007

He entered Bangkok to attend Ramkamhaeng University and joined the University’s Ancient Fighting Weapons Club, which was well known for its being a melting pot for such diverse weapons schools as Buddhai Sawan, Padung Sith, Pran Nok, Athamat, Naresuan, and Meed Sun Tong (Golden Dagger). Post-graduation, Kru Preang continued to seek and learn from other masters. It was then he heard of Master Tong Chua Chaiya (TongLoh Ya Lae), foremost student of the late GrandMaster Ketr Sriyapai, through a close friend.

Krutong Krupreang
Krutong Krupreang

25 years has passed since Kru Preang became Kru Tong’s student. Given his prior skills in ancient fighting styles, Kru Tong decided to teach Kru Preang the ancient style of Chaiya Boxing.

During his last years, Kru Tong has been heard repeatedly mentioning Kru Preqng as his foremost student and only one of the two students to be granted a verbal “teaching certificate”, the other being Kru Yong of the Chulalongkorn University Thai Martial Arts Club. Together Kru Tong and his teaching assistant, Kru Preqng, spent 20 years trying to revive and spread the art Muay Thai Chaiya to the public.

Muaychaiya Activity
Muaychaiya Activity

มวยไชยา 1987

ครูแปรง ครูมวยไชยา

เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๑ ที่ ตำบลหนองชิ่ม อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ในวัยเด็กนั้นด้วยเป็นคนต่างจังหวัด ใช้ชีวิตตามแบบเด็กในชนบท จึงมีความถนัดในด้าน ยิงหน้าไม้ ยิงลูกกระสุน ธนู และปืน เพื่อยังชีพ และได้เริ่มเรียน มวย กับคุณพ่อ และคุณอา เมื่อเข้าช่วงวัยรุ่น

พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้เดินทางมาศึกษาต่อ ที่มหาวิทยาลัย รามคำแหง และได้สมัครเข้าเป็นสมาชิก ชมรมต่อสู้ป้องกันตัว แผนกมวยไทย ฝึกซ้อม และขึ้นชกมวย ในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย อยู่พักหนึ่ง จึงย้ายมาเรียนที่ แผนก อาวุธไทย “สำนักดาบเจ้าราม” ซึ่งรุ่นพี่ในชมรมฯช่วงนั้น จะมีหลายคนมาจากหลายสำนัก รวมตัวกันในรามฯ เพื่อก่อตั้งเป็น แผนกอาวุธไทย

ครูแปรง มวยไชยา 2007
Kru preang 2007

ครูแปรง จึงได้เรียนวิชา จากหลายสำนัก เช่น ดาบพุทไธสวรรค์, ดาบผดุงสิทธิ์, ดาบ พละ, ดาบพรานนก, ดาบอาทมาต, ดาบอาทมาต เท้าช้าง ปัตตานี, มีดสั้นทอง นับแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๐ – ๒๕๒๕ จึงจบหลักสูตร หลังจากนั้น ครูแปรง ยังได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม จากครูอีกหลายท่าน อาทิเช่น ครูพัน ยารนะ ครูดาบสะบัดชัย, ดาบสายกรมหลวงชุมพร จาก กี คลองตัน, ดาบบ้านไชว อยุธยา, ดาบสายอาจารย์นาค เทพหัสดิน ณ อยุธยา, ดาบและมวยในสายอาจารย์กิมเส็ง ซึ่งถือว่าเป็นอาจารย์ปู่ สายมวยทวีสิทธิ์ ในเวลาต่อมาอีกด้วย

…ช่วง ต้นปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ระหว่างที่ ครูแปรง ทำการสอนวิชาดาบ ที่ แผนกอาวุธไทย ในฐานะรุ่นพี่อยู่นั้น ได้มีรุ่นน้องคนหนึ่ง ชื่อ ปาน ได้ขอซ้อมมวยกับ ครูแปรง ด้วยทราบว่า ครูแปรง เป็นนักมวยเวทีมาก่อน และระหว่างดูเชิงกันอยู่นั้น รุ่นน้องคนนั้น ได้ตั้งท่าทางมวยแปลกๆ ซึ่งทำให้รุ่นพี่รุ่นน้องหลาย ๆ คนสนใจ สอบได้ความว่า เป็นวิชามวยคาดเชือก สายมวยไชยา ครูแปรงจึงได้ติดตามไปขอพบ และทดสอบวิชามวยนั้นด้วยตัวท่านเอง จนแน่ใจว่า เป็นวิชามวยคาดเชือกจริง จึงเข้ามอบตัวเป็นศิษย์ ศึกษาวิชามวยจากครูท่านนั้น ซึ่งก็คือ ครูทอง ครูมวยไชยาแห่งคลองทับช้าง (ทองหล่อ ยาและ)

Krutong Krupreang
Krutong Krupreang

ปี พ.ศ. ๒๕๒๕ – ๒๕๓๙ ด้วยความมุ่งมั่น ที่จะเผยแพร่ศิลปะมวยไชยา และวิชากระบี่กระบอง อาวุธไทย ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ครูทอง ได้ก่อตั้ง “ชมรม อนุรักษ์ พาหุยุทธ์ ไชยารัตน์ และอาวุธไทย ตำหรับพิชัยยุทธ์” และได้ ศิษย์อาวุธไทย “สำนักดาบเจ้าราม” คอยให้ความช่วยเหลือ ในเรื่องงานสาธิต แสดงในสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงเผยแพร่ทาง นิตยสาร และโทรทัศน์ มาโดยตลอด

พ.ศ. ๒๕๒๗ ครูแปรง ได้รับการชักชวนจาก ครูทอง ให้ทำงานร่วมกับท่านที่ กรมโยธาฯ ผ่านฟ้า ทำให้ ครูแปรง ได้มีโอกาสติดตาม ครูทอง ช่วยงานสอนมวยไชยา ให้กับนักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจ พร้อมทั้งได้ร่วมกับ ครูทอง ปรับปรุงหลักสูตรการสอน มวยไชยา ให้เป็นระบบ ตามแนวคิดของ ครูทอง ที่ต้องการให้ศิลปะมวยคาดเชือก สายไชยา เป็นที่สนใจในวงกว้าง สามารถเรียนได้ทั้ง ผู้หญิง และเด็ก ในรูปของ “การบริหารร่างกาย เพื่อพาหุยุทธ์” โดยยึดหลักวิชาการ ตามแบบโบราณ ไว้อย่างเคร่งครัด

…พ.ศ. ๒๕๓๙ ครูทอง เสียชีวิต ทำให้การดำเนินงานด้านเผยแพร่ มวยไชยา หยุดชะงักไปชั่วคราว ครูแปรง ขณะนั้นประกอบอาชีพ ทนายความ ได้ละงานประจำ มาดำเนินกิจกรรมสืบต่อ เหตุเพราะ ครูทอง ได้เคยพูดไว้เสมอว่า “มีอยู่สองคนที่ได้วิชาจากครูมากที่สุด คือ แปรง กับ โย่ง” หรือ “ถ้าครูไม่อยู่ ใครจะเรียนมวย ให้ไปหาแปรง” ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กว่า ๒๐ ปี ครูแปรง เองก็ได้ตั้งใจพัฒนาทักษะทางร่างกาย ฝึกฝน สืบค้น ตีความ จนสามารถเข้าถึง เคล็ดวิชาในมวยไชยา ทำให้ศิษย์มวยไชยา และผู้สนใจ ต่างมุ่งมาเรียนกับ ครูแปรง เป็นหลัก

ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ ครูแปรง และรุ่นพี่รุ่นน้องในชมรมฯ ได้ร่วมมือกันทำงานเผยแพร่อย่างจริงจัง จึงทำให้มีผู้รู้จัก และสนใจศึกษา ศิลปะมวยไชยา มากขึ้น คณะศิษย์มวยไชยา จึงได้ประชุมร่วมกัน เพื่อก่อตั้ง “มูลนิธิมวยไทยไชยา” พร้อมดำเนินการจดทะเบียนขึ้น เมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๔๖ โดยมี ครูแปรง ณปภพ ประมวญ ดำรงตำแหน่ง ประธานมูลนิธิฯ ดำเนินงานเผยแพร่ และ อนุรักษ์ศิลปะมวยไชยา และอาวุธไทย พิชัยยุทธ์ ในรูปองค์กรต่อไป.

Muaychaiya Activity
Muaychaiya Activity

Leave a Reply

Your email address will not be published.